ASTVผู้จัดการรายวัน - อย. แนะกินยาพาราฯตามน้ำหนักตัว ใช้เกณฑ์ 10-15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม แต่ห้ามเกิน 1, 000 มิลลิกรัมต่อครั้ง จ่อออกประกาศหนุน คุมฉลาก-การโฆษณายาพาราฯ ต้องระบุเป็นภาษาไทยให้ชัด โดยเฉพาะยาสูตรผสม ป้องกันรับยาพาราฯซ้ำซ้อน ภก. ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย. )
ศ. 1998-2003 สาเหตุเกิดจากพาราเซตามอล ร้อยละ 48 ขณะที่สถานการณ์ในประเทศไทย รายงานจากศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี ชี้ว่า "ในปี 2558 มีรายงานพิษจากพาราเซตามอล รวม 960 ราย" สาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่ได้รับพาราเซตามอลเกินขนาด ปัจจัยสำคัญไม่เพียงเกิดจากการใช้ยาซ้ำซ้อน จากยาชนิดอื่นที่มีพาราเซตามอลเป็นส่วนประกอบ แต่ยังรวมถึงการใช้ยาเกินขนาดโดยไม่ได้ตั้งใจ ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา ศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย. ) ได้ออกมาย้ำเตือนผลเสียต่อร่างกายอีกครั้ง พร้อมระบุว่าในผู้ใหญ่ห้ามกินเกิน 4, 000 มก. /วัน ใช้ติดต่อกันไม่เกินเวลาที่กำหนด แบ่งเป็นการกินเพื่อแก้ปวด 5 วัน ลดไข้ 3 วัน หากอาการไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์ ปัจจุบันพาราเซตามอลชนิดเม็ดที่วางขายในท้องตลาด มีหลายขนาดไม่ว่าจะเป็นชนิดตัวยา 325, 500, 650 มก. หากต้องการกินให้ปลอดภัยจริงๆ ต้องนำเอาน้ำหนักตัวเข้ามาคำนวณด้วย เรียกง่ายๆ ว่ากินตามน้ำหนักตัว โดยขนาดยาที่เหมาะสมอยู่ที่ 10 - 15 มก. /น้ำหนักตัว 1 กก. ยกตัวอย่างหาก น้ำหนัก 50 กก. ควรใช้ยาไม่เกิน 750 มก. /ครั้ง พาราเซตามอลที่หาซื้อได้ง่ายที่สุดในบ้านเราคือ 500 มก. หากกินครั้งละ 2 เม็ด เท่ากับว่าได้รับปริมาณยา 1, 000 มก.
ยาพารามีรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งยาเม็ด ยาแคปซูล ยาน้ำ ความแตกต่างไม่มากนัก โดยยาน้ำเหมาะสำหรับเด็กและผู้ที่ทานยาแบบอื่นยาก ส่วนยาแคปซูลอาจละลายได้เร็วกว่ายาเม็ดเล็กน้อย แต่ไม่ว่าจะทานยาพาราเซตามอลแบบไหนก็ให้ผลรักษาไม่ต่างกัน ความแตกต่างจะขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่ทานเข้าไปต่อ 1 โดสมากกว่า 3. ควรกินยาพาราเซตามอลตอนไหน? สามารถกินก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ แต่ควรกินเมื่อมีอาการปวดหรือเป็นไข้เท่านั้น ไม่ควรกินยาดักเอาไว้ก่อนทั้งๆ ที่ไม่มีอาการ เพราะจะทำให้เกิดผลข้างเคียงและไม่มีประสิทธิภาพในการรักษา 4. แพ้ยาพาราเซตามอล ควรกินยาอะไรแก้ปวด? ยากลุ่มที่สามารถใช้แทนพาราเซตามอลได้ คือ ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-steroidal anti-inflammatory drugs หรือ NSAIDs) ซึ่งมีหลายชนิดและจะมีคุณสมบัติต่างกัน เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, ไดฟลูนิซอล 5. ยาพาราแก้อักเสบได้ไหม? ยาพาราเซตามอลมีฤทธิ์ในการแก้อาการปวดในระดับต้นถึงระดับปานกลาง ไม่สามารถใช้แก้อักเสบและไม่สามารถใช้แก้ปวดขั้นรุนแรงได้เช่นกัน 6. ยาพาราออกฤทธิ์ในกี่นาที? ยาพาราจะออกฤทธิ์ภายใน 30 นาทีหลังจากทาน และจะมีออกฤทธิ์ได้ในระยะ 4-6 ชม. ทำให้เมื่อมีอาการต่อเนื่องควรทานยาอีกครั้งแบบเว้นระยะ 4-6 ชม.
ห้ามรับประทานเกินกว่า 4, 000 มิลลิกรัม (8 เม็ด) ต่อวัน ซึ่งยาพาราเซตามอลชนิดเม็ดส่วนใหญ่จะมีขนาด 500 มิลลิกรัม 2. ในแต่ละครั้ง ห้ามรับประทานเกิน 1, 000 มิลลิกรัม (2 เม็ด) โดยเด็ดขาด เพราะนอกจากจะไม่เกิดประโยชน์แล้ว กลับเป็นการเพิ่มอันตรายด้วย และ 3. อย่ารับประทานบ่อย ภายในช่วงเวลาที่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง ผลเสียของการใช้ยาเกินขนาดคืออะไร แน่นอนว่าอวัยวะที่ต้องรับบทหนักย่อมหนีไม่พ้น 'ตับ' หากใช้ยาในปริมาณสูงอาจเกิดภาวะเป็นพิษต่อตับ เช่น รับประทานยาต่อเนื่องทุก 2-3 ชั่วโมง หรือใน 1 วันรวมแล้วเกิน 8 เม็ด ซึ่งเกินกว่าความจำเป็นที่ร่างกายต้องการ แล้วในที่สุดตับก็จะถูกทำลาย ข้อควรคำนึงอีกประการหนึ่งสำหรับการคำนวณปริมาณการใช้ยา นพ.
ผลิตภัณฑ์ยาบางชื่อการค้า (ยี่ห้อ) จะมีสารให้ความหวานแอสพาแตม (aspartame) ซึ่งเป็นแหล่งของกรดอะมิโนฟีนิลอะลานีน (phenylalanine) ผู้ป่วยโรคฟีนิลคีโตนยูเรีย (phenylketonuria, PKU) ไม่ควรใช้ หมายเหตุ: สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐอเมริกาแจ้งว่าจะไม่ให้ใช้พาราเซตามอล (paracetamol หรือในสหรัฐอเมริกาเรียกว่า acetaminophen) ชนิดหยดความเข้มข้น 80 มิลลิกรัมต่อ 0. 8 มิลลิลิตร เนื่องจากพบปัญหาการคำนวณขนาดยาผิดทำให้เด็กได้รับอันตรายจากการใช้ยาเกินขนาด และจะให้ใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้น 160 มิลลิกรัมต่อช้อนชา (5 มิลลิลิตร) เท่านั้น คำเตือนที่บังคับตามกฎหมาย ประเทศไทย คำเตือนการใช้ยาพาราเซตามอลของประเทศไทยตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง ยาที่ต้องแจ้งคำเตือนการใช้ยาไว้ในฉลากและที่เอกสารกำกับยาและข้อความของคำเตือน ฉบับที่ 13 (ราชกิจจานุเบกษา 15 ธันวาคม พ. ศ. 2536) มีดังนี้ "คำเตือน: 1. ถ้าใช้ยานี้เกินขนาดที่ระบุไว้บนฉลากหรือเอกสารกำกับยา จะทำให้เป็นพิษต่อตับได้ และไม่ควรใช้ยานี้ติดต่อกันเกิน 5 วัน 2. ผู้ที่เป็นโรคตับ โรคไต ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้" สหรัฐอเมริกา Code of Federal Regulations, Title 21 มาตรา 369.
หมวดข้อสอบ STRUCTURE (ตอนที่ 78) | Everyday English สหรัฐฯเตือน!! พก "ยา-สมุนไพร" ต้องมีฉลากภาษาอังกฤษ - จัดกระเป๋าเตรียมตัวก่อนบินไป ออสเตรเลีย เอาอะไรไปบ้างดีนะ!! | EDUYOUNG THAILAND ระวัง! 5 ส่วนผสมอันตราย ที่แอบแฝงอยู่ในผลิตภัณฑ์ความงาม ได้ที่นี่ ซาร่า reviews Be the first to write a review of this product! กระทรวงสาธารณสุขดัน กัญชา เป็น Product Championสู่อุตสาหกรรมสุขภาพ สร้างเศรษฐกิจ ตั้งเป้าผลิตยาแผนไทย ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ประเดิมจับคู่ 29 บริษัทผู้ผลิตยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกับวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูก คาดสร้างรายได้ 150 ล้านบาท กำหนดเป็นระบบบริการสุขภาพสาขาที่ 20 เพิ่มโอกาสการเข้าถึงการรักษาด้วยยากัญชา วันนี้ (11 มีนาคม 2564) ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมแถลงข่าวการพัฒนากัญชาเพื่อเศรษฐกิจไทย ในการประชุมเชิงปฏิบัติการกัญชาในอุตสาหกรรมสุขภาพและการจับคู่เจรจาธุรกิจส่วนของกัญชาที่ไม่ใช่ยาเสพติด นายอนุทินกล่าวว่า ในสายตาประชาคมโลก กัญชา เป็นสมุนไพรที่มีค่าและให้การยอมรับมากขึ้น ปัจจุบันตลาดกัญชาที่ถูกกฎหมายมีมูลค่า 17.
ตามอาการ ✅ ตรวจสอบข้อมูลโดย แหล่งข้อมูล
ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์ วันเสาร์ 11 ตุลาคม 2557