หลายคนพบว่าโถสุขภัณฑ์ที่สูงจะมีความสะดวกสบายมากขึ้น American Standard จึงมีตัวเลือกโถสุขภัณฑ์ที่มี "ความสูงที่เหมาะสม" สำหรับเกือบทุกรุ่น โดยจะมีความสูงจากพื้นถึงฝารองนั่งสุขภัณฑ์ระหว่าง 400-430 มม. ซึ่งเป็นไปตามความสูงตามหลักสรีระของเก้าอี้ที่จะอยู่ระหว่าง 350 มม. – 510 มม. ทำให้ง่ายต่อการนั่ง และลุกขึ้นจากสุขภัณฑ์ โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงวัย, สตรีมีครรภ์ และผู้พิการ ขนาดและความต้องการคร่าวๆ ของคุณคืออะไร? สุขภัณฑ์มีหลายหลายขนาดมากมาย ดังนั้นจะต้องตรวจสอบความกว้าง, ความลึก และความสูงของพื้นที่ที่รองรับของคุณ สุขภัณฑ์ส่วนใหญ่จะถูกยึดกับพื้นโดยห่างจากผนังประมาณ 12 นิ้ว (ไม่นับแผ่นฐาน) ซึ่งเป็นขนาด "คร่าวๆ" ดังนั้นวัดขนาดก่อนเพื่อให้แน่ใจในสิ่งที่คุณต้องการ การประกันคุณภาพ สุขภัณฑ์ของ American Standard ทั้งหมดผ่านการทดสอบอย่างเต็มที่เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพขั้นสูงและการทำงานที่ยาวนาน ซึ่งรวมถึงการทดสอบการกดสุขภัณฑ์จริงของแต่ละโถสุขภัณฑ์ที่โรงงานก่อนที่จะบรรจุลงกล่อง ส่วนประกอบแต่ละชิ้นจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานความทนทานของ American Standard ที่เหนือกว่ามาตรฐานทั่วไป ที่มา: American Standard
2 มุมเสริมความรู้กลุ่มประสบการณ์ต่าง ๆ ควรจัดไว้ให้น่าสนใจ ช่วยเสรมความรู้ ทบทวนความรู้ เช่น มุมภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา มุมความรู้ข่าว เหตุการณ์ ฯลฯ 5. 3 มุมแสดงผลงานของนักเรียน ครูควรติดบนป้ายนิเทศ แขวนหรือจัดวางไว้บนโต๊ะ เพื่อให้นักเรียนเกิดความภูมิใจในความสำเร็จ และมีกำลังใจในการเรียนต่อไป อีกทั้งยังสามารถแก้ไขพัฒนาผลงานของนักเรียนให้ดีขึ้นโดยลำดับได้อีกด้วย 5. 4 ตู้เก็บสื่อการเรียนการสอน เช่น บัตรคำ แผนภูมิ ภาพพลิก กระดาษ สี กาว ฯลฯ ควรจัดไว้ให้เป็นระเบียบ เป็นสัดส่วน สะดวกต่อการหยิบใช้ อุปกรณ์ชิ้นใดที่เก่าเกินไปหรือไม่ใช้แล้วไม่ควรเก็บไว้ในตู้ให้ดูรกรุงรัง 5. 5 การประดับตกแต่งห้องเรียน ครูส่วนใหญ่มักนิยมประดับตกแต่งห้องเรียนด้วยสิ่งต่างๆ เช่น ม่าน มู่ลี่ ภาพ ดอกไม้ คำขวัญ สุภาษิต ควรตกแต่งพอเหมาะไม่ให้ดูรกรุงรัง สีสันที่ใช้ไม่ควรฉูดฉาด หรือใช้สีสะท้อนแสง อาจทำให้นักเรียนเสียสายตาได้ การประดับตกแต่งห้องเรียน ควรคำนึงถึงหลักความเรียบง่าย เป็นระเบียบ ประหยัด มุ่งประโยชน์ และสวยงาม
หน้าต่างแบบสไตล์ญี่ปุ่น แม่บ้านส่วนมากจะชอบการตกแต่งสไตล์เซนของญี่ปุ่น เรียบง่ายแต่ก็คลาสสิคสวยงาม เป็นการออกแบบที่ตอบสนองความต้องการของพวกเธอได้และบ้านญี่ปุ่นก็มีความอบอุ่นและสบาย มีกำแพงระหว่างทางเข้า นักออกแบบเลือกประตูและหน้าต่างเป็นสีเทา หน้าต่างและด้านข้างของประตูกระจกให้ความรู้สึกเป็นองค์รวมผสมกลมกลืน ใช้พื้นที่ใช้สอยได้อย่างเต็มรูปแบบ 2. หน้าต่างแบบโปร่งใส นักออกแบบชาวไต้หวัน ผู้รับผิดชอบโครงการนี้เลือกใช้กระจกขนาดใหญ่เพื่อสร้างหน้าต่างในร่มและเพื่อให้โปร่งใส โล่ง สบายตา ทำให้รู้สึกว่าบ้านกว้างกว่าที่เคยเป็น 3. หน้าต่างสไตล์ผสมผสาน เจ้าของบ้านต้องการผสมผสานสไตล์การจัดและตกแต่งบ้าน 2 สไตล์เข้าด้วยกัน คือ ประตูแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ทไจากกระดาษและการตกแต่งห้องในสไตล์พิเศษของไต้หวันซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นักออกแบบจึงทำหน้าต่างเลียนแบบหน้าต่างกระจกของญี่ปุ่น ภายใต้แนวคิด light decoration เพื่อสร้างพื้นผิวสว่างไสวของบ้านอย่างเรียบง่าย 3. หน้าต่างสไตล์ผสมผสาน (อีกมุม) เมื่อเปิดหน้าต่างแบบญี่ปุ่น เราจะเห็นเป็นห้องทำงานที่แบ่งแยกออกมา 4. หน้าต่างแยกสัดส่วนอิสระ จัดเต็มสำหรับการทำหน้าต่างแบบในบ้านที่ใช้กระจกขนาดใหญ่ นักออกแบบแบ่งครึ่งหนึ่งของห้องและกั้นด้วยผนังและกระจกขนาดใหญ่เพื่อแยกห้องนั่งเล่นและห้องสมุดออกจากกัน ให้แต่ละห้องมีอิสระและดำเนินกิจกรรมของตัวเองได้เต็มที่ 5.