ที่สุดในโลก ที่มา: odditycentral
ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยะลา อธิบายถึงความยากของการขยายพันธุ์ เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความชำนาญพิเศษ สังเกตระยะที่มีไข่สุกพร้อมมากที่สุด ถึงจะทำได้สำเร็จ และส่งเสริมให้เกษตรกร 50 ราย ในพื้นที่ อ. ธารโต และ อ. เบตง จ. ยะลา เลี้ยงในบ่อดิน ต่อท่อตรงมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติและปล่อยให้ไหลผ่านระบายออกไป โดยปล่อยลูกปลาขนาด 2-3 นิ้ว หนัก 20 กรัม ในอัตรา 1-5 ตัวต่อพื้นที่บ่อ 1 ตร. ม. ให้อาหารปลาปลาดุกวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น มื้อละ 2-3% ของน้ำหนัก ตัว... ใช้เวลาเลี้ยง ปีครึ่งถึงสองปี ถึงจะมีน้ำหนัก 2. 3 กก. ได้ขนาดตรงความต้องการของตลาด และจากการคำนวณต้นทุนค่าอาหาร ผอ. ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยะลา บอกว่า ปลาพลวงชมพูให้ผลตอบแทนสูง มีอัตราแลกเนื้ออยู่ที่ 2-3: 1 ถ้าจะเลี้ยงให้ได้ขนาด 2. ใช้อาหารไม่เกิน 7 กก. ฉะนั้นจะมีต้นทุนค่าอาหารแค่ตัวละ 210 บาท... แต่สามารถขายได้สูงถึง 4, 600 บาท เพื่อให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ขณะนี้ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยะลากำลังอยู่ระหว่างศึกษาการเลี้ยงปลาพลวงชมพูในบ่อซีเมนต์ ด้วยระบบน้ำหมุนเวียน... สนใจ