สารสกัดจากแก่นฝางมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย จึงถูกนำมาเป็นส่วนผสมในยา และเครื่องสำอาง ประเภทครีม เจล และโลชั่น เพื่อใช้ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย 2. สารสีแดงหรือสีเหลืองที่สกัดจากแก่นฝางในความเป็นกรดด่างที่ต่างกัน มักใช้เป็นสารให้สี และเพิ่มความสวยงามให้แก่ผลิตภัณฑ์หลายชนิด เช่น สบู่อาบน้ำ แป้งผัดหน้า ครีมทาหน้า เป็นต้น 3. สารสีแดงหรือสีเหลืองที่สกัดจากแก่นฝางในความเป็นกรดด่างที่ต่างกัน มักใช้เป็นสีย้อมผ้าในอุตสาหกรรมสิ่งทอ สาร brazilin จากแก่นของฝางที่นิยมนำมาทำเป็นสีย้อมผ้า เนื่องจากเมื่อต้มแก่นฝางแล้วจะให้สารสีเหลือง ชมพู ส้ม และสีแดงที่เป็นธรรมชาติ และสามารถเกิดสารประกอบเชิงซ้อนกับโลหะออกไซด์ เช่น อะลูมิเนียม เหล็ก ทำให้เกิดการย้อมติดสีที่ดี โดยสมัยก่อนนิยมนำมาย้อมผ้าไหม ผ้าฝ้าย และขนสัตว์ 4. ใช้เป็นส่วนผสมของสีผสมอาหารหรือขนมหวาน 5. ใช้เป็นส่วนผสมน้ำดื่มเพื่อให้เกิดสี เช่น ใช้เป็นส่วนผสมของน้ำยาอุทัยสำหรับผสมน้ำดื่ม การปลูก และขยายพันธุ์ ฝางสามารถได้ด้วยการปลูกด้วยเมล็ด สามารถเติบโตได้ดีในดินทุกสภาพ เอกสารอ้างอิง
ผล ผลเป็นฝัก มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมแข็ง แบนสีเขียว เหมือนมีดปังตอ เมื่อแก่จะมีสีน้ำตาลหรือน้ำตาลเข้ม และแก่เต็มที่หรือแห้งจะมีสีน้ำตาลดำหรือดำ บริเวณผิวฝักมีลายแต้มเป็นจุดๆ ทำให้มีลักษณะคล้ายกับถั่วแปบ โดยมีปลายฝักยื่นออกมาเป็นจงอยแหลม ด้านในฝักมีเมล็ดทรงเรียวรี 2-4 เมล็ด/ฝัก ที่มา: โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ, 2544. (1) สารสำคัญที่พบ กลุ่มฟลาโวนอยด์ (flavonoid) ได้แก่ 1. 7-hydroxy-3-(4′-hydroxybenzylidene)-chroman-4-one 2. 3, 7-dihydroxy-3-(4′-hydroxybenzyl)-chroman-4-one 3. 3, 4, 7-trihydroxy-3-(4′-hydroxybenzyl)-chroman 4. 4, 4′-dihydroxy-2-methoxychalcone 5. 7, 30, 40-trihydroxy-3-benzyl-2-h-chromene 6. 8-methoxy bouducellin 7. quereetin 8. rhamnetin 9. ombuin 10. 4-Omethylepisappanol 11. 3-O-deoxy-4-O-methylsappanol 12. intricatinol 13. caesalpin J 14. protosappanin A 15. 4-O-methylepisappanol 16. 4-O-Methylsappanol 17. 4-(7-Hydroxy-2, 2-dimethyl-9-β-H-1, 3, 5-trioxa-cyclopenta[α]naphthalen 3-α-ylmethyl)-benzene-1, 2-diol กลุ่มสเตอรอยด์ (sterols) 1. beta-sitosterol 69.
9% 2. campesterol 11. 2% 3. stigmasterol 18. 9% 4. brazilin 5. brazilein 6. protosappanin E 7. taraxerol 8. β-sitosterol ที่มา: มนทยา, (2553) (2) แก่นของต้นฝางประกอบด้วยสารประกอบ Brazilin ซึ่งเป็นสารหลักที่ทำให้เกิดสีในฝาง สามารถละลายน้ำ และเปลี่ยนรูปได้เมื่อเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ทำให้เกิดสารสีแดง ชื่อว่า บราซิลลีน (brazilein) ออกมา Brazilin มีคุณสมบัติ ดังนี้ (วิแทน, 2556) (3) 1. สามารถตกผลึกได้ในน้ำ ได้ผลึกรูปเข็ม ไม่มีสี จุดหลอมเหลว 191 – 192. 5 °C 2. เมื่อถูกอากาศ หรือแสงจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม 3. เมื่อละลายได้ในน้ำ แอลกอฮอล์ อีเธอร์ และสารละลายด่าง จะให้สีแดงเข้ม (Carmine-red color) 4.
สรรพคุณของต้นฝางวิธีต้มฝางดื่ม - YouTube
ฝาง (Sappan Tree) จัดเป็นยืนต้นที่คนโบราณที่นิยมนำมาใช้ประโยชน์มากมาย อาทิ ใช้เป็นสมุนไพรพื้นบ้านช่วยบำรุงเลือดในสตรี ช่วยขับประจำเดือน แก้เลือดกำเดา เป็นต้น รวมถึงนำมาใช้ประโยชน์ในด้านเป็นสีย้อมผ้าธรรมชาติ ชื่อวงศ์: Ceasalpiniaceae ชื่อวิทยาศาสตร์: Ceasalpinia sappan Linn. ชื่อสามัญ: Sappan Tree ชื่ออื่นที่เรียกตามท้องถิ่น: ฝาง (ทั่วไป), ฝางเสน (ภาคกลาง), ง้าย (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), ฝางส้ม (กาญจนบุรี), หนามโค้ง (ภาคเหนือ), โซบั๊ก (จีน) แบ่งฝางออกเป็น 2 ชนิด ตามสีของเนื้อแก่น คือ แก่นสีเหลือง เรียกว่า ฝางส้ม และแก่นสีแดง เรียกว่า ฝางเสน ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ 1. ลำต้น ฝางเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง เปลือกลำต้น และกิ่งก้านมีหนามขนาดใหญ่ โคนหนามพองโตคล้ายเต้านม 2. ใบ ใบประกอบด้วยก้านใบยาว และมีก้านย่อยที่ประกอบด้วยใบย่อย ก้านใบ 1 ก้าน มีก้านย่อยประมาณ 12 ก้าน แต่ละก้านย่อยประกอบด้วยใบย่อยประมาณ 13 คู่ ออกเรียงสลับตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ ใบมีลักษณะแบบขนนก คล้ายใบมะขาม สีเขียวสด และเมื่อแก่มีสีเขียวเข้ม ใบเรียบ ปลายใบมน และเว้าตรงกลางเล็กน้อย ผิวใบเรียบทั้ง 2 ด้าน 3. ดอก ฝางออกดอกเป็นช่อบริเวณส่วนยอดของต้น ดอกมีสีเหลือง กลางดอกมีสีแดง ออกรวมกันเป็นช่อตามปลายกิ่ง และซอกใบใกล้ปลายกิ่ง กลีบรองดอกมี 5 กลีบรองว้อนทับกันที่ขอบกลีบ โดยมีกลีบล่างสุดมีลักษณะโค้งงอ และมีขนาดใหญ่สุด ส่วนกลีบดอกมี 5 กลีบเช่นกัน มีลักษณะเป็นรูปไข่กลับหัว ขอบกลีบมีลักษณะย่น ด้านในดอกมีเกสรตัวผู้ 10 อัน 4.