บล. หยวนต้า (ประเทศไทย): Action BUY (Maintain) TP upside (downside) 14. 9% Close Apr 19, 2022 Price (THB) 70. 50 12M Target (THB) 81. 00 Previous Target (THB) 76. 00 What's new? KKP รายงานกำไรสุทธิ 1Q65 จำนวน 2, 055 ลบ. โตเด่น 40. 5%YoY และโต 1. 6%QoQ แม้รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจะปรับลง 24. 8%QoQ จากฐานที่สูงใน 4Q64 แต่ด้วยรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิที่ขยับขึ้นตามพอร์ต สินเชื่อที่เติบโตดี บวกกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำลง และการตั้งสำรองที่ผ่อนคลายลงมาก ทำให้ผลดำเนินงานโดยรวมออกมาดีกว่าที่เราคาด Our view เราชอบ KKP จากการขยายพอร์ตสินเชื่อที่โดดเด่น และธุรกิจฝั่งตลาดทุนที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 14. 9% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2565 ที่ 81 บาท (อิง Prospective PBV ที่ 1. 2x) และคาดให้ อีก 5. 1% จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" KIATNAKIN PHATRA BANK กำไรโตดีกว่าคาด และมองว่าช่วงที่เหลือของปียังโตต่อได้ 1Q65 กำไรโตดีกว่าคาด หลังขาดทุนรถยึดต่ำลงและสำรองน้อยลงมาก KKP รายงานกำไรสุทธิ 1Q65 จำนวน 2, 055 ลบ. 5%YoY และโตต่อ 1. 6%QoQ ดีกว่าที่เราและ ตลาดคาด โดยแม้กำไรก่อนการตั้งสำรองและหักภาษี (PPOP) จะปรับตัวลง 10.
ธนาคารไทยพาณิชย์ ผลประกอบการไตรมาส 1/2565 กำไรเพิ่มขึ้น 1% ที่ 10, 193 ล้านบาท ผลจากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และหนี้เสียลดลงจากปีก่อน BAY โชว์กำไรไตรมาส 1/65 ที่ 7, 418 ล้านบาท เพิ่ม 14% เหตุสินเชื่อโต-NPL ลดลง กสิกรไทย ในไตรมาส 1 กำไร 11, 211 ล้านบาท เพิ่ม 5. 50% จากดอกเบี้ย TTB ไตรมาส 1/65 กำไรสุทธิ 3, 194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14. 8% ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ชื่อหลักทรัพย์ SCBB (SCB) รายงาน ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 10, 193 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลมาจากการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิในไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ 24, 744 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5. 9% จากปีก่อน โดยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวดีขึ้น 0. 03% จากการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนการให้สินเชื่อ การปรับลดต้นทุนทางการเงิน และการเติบโตของสินเชื่อ 2. 1% จากปีก่อน ลุ้นตรึงราคาดีเซลหรือไม่ หลัง 1 พ. ค. นี้ หมดเวลาช่วย คาดเจอลิตรละ 35 บาท ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย อยู่ที่ 12, 960 ล้านบาท หรือลดลง 9. 9% จากปีก่อน เป็นผลมาจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยประเภทเกิดประจำลดลง จากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ท่ามกลางสภาพตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยประเภทไม่ประจำลดลง จากการลดลงของกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน ค่าใช่จ่ายจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 15, 990 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.
2%, 0. 2%, 5. 6%, 9. 2%, 32. 7%, 73. 0% และ 46. 6% ต่อปี ตามลำดับ (แสดงผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริง ไม่ปรับเป็นอัตราต่อปี) (ที่มา: KIM Vietnam as of 28 Feb 2022) "สกุลเงินเวียดนามที่มีเสถียรภาพดี เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้เศรษฐกิจของเวียดนามมีแนวโน้มที่จะเติบโตโดดเด่นควบคู่ไปกับการลงทุนในประเทศต่อไป ตลาดหุ้นเวียดนามจึงที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลกและกำลังจะถูกปรับสถานะจากการเป็นตลาดชายขอบ ( Frontier Market) สู่การเป็นตลาดเกิดใหม่ ( Emerging Market) กองทุนเปิด วี เวียดนาม โกรท ( WE-VIETGROWTH) จึงเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่ บลจ. วี อยากแนะนำสำหรับการลงทุนในประเทศเวียดนามที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวอย่างชัดเจน" นายอิศรา กล่าว --------------------------------------------------------------------------------------- สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด ("บลจ. วี") โทรศัพท์ 02-351-1800 กด 2 หรือตัวแทนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ของ บลจ. วี ได้แก่, · บล. เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) · บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด · บล. โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) · บล.
" เศรษฐกิจเวียดนามฮอต! รับกระแสการลงทุนทั่วโลก บลจ. วี ชวนลงทุน "กองทุนเปิด วี เวียดนาม โกรท ( WE-VIETGROWTH)" ชี้ ประเทศเวียดนามมีพื้นฐานแข็งแกร่ง การลงทุนตรงจากต่างประเทศเข้าต่อเนื่อง การบริโภคที่เติบโตสูงและการเปลี่ยนเข้าสู่ Digital Economy หนุนตลาดหุ้นเติบโตในระยะยาว เป็นจังหวะเข้าลงทุนผ่านการลงทุนเชิงรุกของผู้จัดการกองทุนที่เชี่ยวชาญตลาดเวียดนาม เปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 21 -28 เมษายน 2565" " นายอิศรา พุฒตาลศรี" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วี จำกัด (บลจ. วี) เปิดเผยว่า การเติบโตของเศรษฐกิจประเทศเวียดนามมีความโดดเด่นและเป็นที่สนใจของนักลงทุนอย่างมาก โดยในปี 2020 GDP เวียดนามเติบโตที่ 2.
9% จากปีก่อน ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากค่าเสื่อมของราคา ซอฟต์แวร์และแคมเปญการตลาดของบริษัทย่อยของธนาคารที่เพิ่มขึ้น สำหรับยอดสินเชื่อของธนาคารอยู่ที่ 2, 326 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2. 1% จากปีก่อน เป็นผลมาจากความต้องการสินเชื่อของธุรกิจขนาดใหญ่ โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และประสบปัญหากระแสเงินสด ทั้งนี้ธนาคารได้ตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 8, 750 ล้านบาท ลดลง 12. 6% จากปีก่อน จากความไม่แน่นอนของสงครามรัสเซีย-ยูเครน และแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 3, 371 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6. 1% จากปีก่อน และมีเงินฝากเพิ่มขึ้น 6. 6% จากปีก่อน อยู่ที่ 2, 500 ล้านบาท ราคาหุ้น SCBB ปิดตลาดภาคเช้าวันนี้( 21 เม. ย. 65) เพิ่มขึ้น 7. 00 บาท หรือ 8. 59% ที่ 88. 50 บาท มูลค่าซื้อขาย 1, 814 ล้านบาท นอกจากนี้ SCBX ได้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของธนาคารจากผู้ถือหุ้นของธนาคาร อัตราการแลกหลักทรัพย์เท่ากับ 1 หุ้นสามัญ/หุ้นบุริมสิทธิของธนาคารต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX ซึ่งผลการตอบรับอย่างไม่เป็นทางการได้มากกว่า 90% โดยหุ้น SCBX จะได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท. )
2% เพิ่มจาก 175% ใน 4Q64 ปรับประมาณการกำไรขึ้น สะท้อนปัจจัยบวกจากฝั่งค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าคาด กำไร 1Q65 คิดเป็น 29. 7% ของประมาณการเดิมทั้งปี ซึ่งสูงกว่าคาด หนุนด้วยผลขาดทุนจากการขายรถยึดที่ปรับตัวลง และการตั้งสำรองที่ลดลงมากกว่าคาด รวมถึงการขยายพอร์ตสินเชื่อที่โดดเด่น ขณะที่เรามองว่า 2Q65 จะยังเห็น Momentum เชิงบวกจากธุรกิจหลัก ทั้งในส่วนของธุรกิจสินเชื่อที่เร่งตัวขึ้น หลังได้อานิสงค์จากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในงาน Motor Show ที่ผ่านมา (31 มี. ค. - 10 เม. ย. ) ทำให้คาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือหนึ่งจะปรับตัวขึ้นต่อได้ ขณะที่ธุรกิจฝังตลาดทุนยังมีแนวโน้มที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากธุรกิจ Brokerage ที่มี Market Share สูงขึ้นเป็น 18. 7% จาก 14% ณ สิ้นปี 2564 และธุรกิจ Investment Banking ที่มีดีลใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา นอกจากนี้ธุรกิจ Wealth Management ยังมีทิศทางเติบโตดี มี AUM และ AUA เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการเน้นนโยบายลงทุนต่างประเทศที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนมากขึ้น ขณะที่การตั้งสำรองคาดจะทรงตัวในระดับที่ต่ำลงจากปีก่อน เนื่องจากบริษัทสามารถควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี ดังนั้นเพื่อสะท้อนปัจจัยบวกดังกล่าว เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-66 ขึ้น เฉลี่ยปีละ 10.
64 ล้านราย ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้านี้ 0. 20 ล้านราย (หายไปถึง 200, 000) ข่าวนี้ทำให้หุ้นบริษัทดิ่งลงทันที 25% และคาดว่า ไตรมาสที่ 2 (2/2022) จะลดลงอีกประมาณ 2 ล้านราย โดยเป็นการปรับจากการประเมินก่อนหน้านี้ ที่คาดว่าจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้น 2.
Sacombank (STB) ธนาคารเอกชนชั้นนำที่ให้บริการทางการเงินส่วนบุคคลและองค์กร รวมถึง ให้บริการผลิตภัณฑ์ประกันภัยและการลงทุน 2. ) FPT Corp. (FPT) บริษัทเทคโนโลยีที่ทำธุรกิจหลักในด้านโทรคมนาคม, IT outsourcing และการศึกษา 3. ) Techcombank (TCB) ธนาคารเอกชนชั้นนำในเวียดนาม ที่มีรากฐานทางการเงินที่ยั่งยืนและกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการที่โดดเด่น 4. ) Quang Ngai Sugar (QNS) บริษัทที่ดำเนินงานในอุตสาหกรรมน้ำตาล การผลิตและการค้าเครื่องจักรกลเพื่อการเกษตร 5. ) Mobile World (MWG) บริษัทค้าปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน รวมถึงโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต แล็ปท็อป และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ทั้งนี้ ด้วยสไตล์การลงทุนที่เน้นเลือกหุ้นพื้นฐานแกร่ง และระดับราคาที่เหมาะสม ทำให้ กองทุนหลัก KIM Vietnam Growth Fund ณ วันที่ 28 ก. พ. 2565 ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 1. 4% ย้อนหลัง 1 เดือนอยู่ที่ -0. 6% ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -0. 7% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 10. 4% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 50. 3% ย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 109. 5% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 73. 8% เมื่อเทียบกับดัชนี VNIndex อยู่ที่ 7.
5% โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาดปี 2565 KKP จะมีกำไรสุทธิ 7, 610 ลบ. โต 20. 5%YoY มองธุรกิจขยายตัวได้ดี มีจุดเด่นทั้งในตลาดสินเชื่อและตลาดทุน แนะนำ "ซื้อ" เราชอบ KKP จากการขยายพอร์ตสินเชื่อที่โดดเด่น และธุรกิจฝังตลาดทุนที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 14. 1% จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" - Advertisement -