1. ทรัศธา หมายถึง ความเชื่อมั่นว่าการเป็นคนดี คิดดี คิดบวก คิดสร้างสรรค์ ทำเฉพาะในสิ่งที่ดีงาม มักจะได้รับแต่สิ่งที่ดีเป็นการตอบแทนเสมอ การเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ตามคือ บทบาทที่สำคัญที่สุด เพราะก่อนที่จะสอนผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะลงมือเป็นตัวอย่างให้คนอื่นเห็นจริง 2. 2. ศีล หมายถึง ความประพฤติดีทางด้านร่างกาย วาจาและจิตใจ ให้อยู่ในครรลองครองธรรม เปรียบเสมือนกฏระเบียบข้อบังคับขององค์กร ผู้นำจะต้องรักษาไว้ซึ่งความถูกต้อง มีความยุติธรรม ไม่อาศัยอำนาจตนที่มีอยู่เหนือผู้อื่น ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง รู้จรรยาบรรณของการเป็นผู้นำ วิชาชีพการเป็นผู้นำต้องยอมรับเมื่อตนเองทำผิด และกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง 2. 3 จาคะ หมายถึง การรู้จักแบ่งปัน เสียสละ คอยให้คำแนะนำและเฝ้าสอนลูกน้องอย่างต่อเนื่อง ต้องวางแผนอนาคตให้กับตนเองและลูกน้องได้ เพราะลูกน้องทุกคนย่อมต้องการ ความก้าวหน้าในอาชีพการงานเหมือนกัน การวางแแผนการเจริญเติบโต สร้างความชัดเจนและลำดับชั้นในองค์กร ส่งเสริมจุดแข็ง แล้วเติมเต็มความรู้ความสามารถในสิ่งที่พวกเขาขาด 2.
ลักษณะภาวะผู้นำ มิทเชล และ ลาร์สัน จูเนียร์ (Michell and Larson, Jr., 1987: 435-436)ได้ชี้ให้เห็นองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ประการ ในการพิจารณาว่าผู้นำใดมีภาวะผู้นำหรือไม่ ได้แก่ 1. ผู้นำเป็นกระบวนการ 2. มีระดับความถูกต้องของการใช้อิทธิพล 3. มีความสำเร็จของจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ 1. ภาวะผู้นำ เป็นกระบวนการของการใช้อิทธิพล ที่ผู้นำพยายามจะมีอิทธิพลเหนือผู้ตาม เพื่อให้มีพฤติกรรม การปฏิบัติงานตามต้องการโดยมีจุดมุ่งหมายขององค์การเป็นเป้าหมาย ไม่ใช่เรื่องของบุคคลที่จะพึงมีภาวะผู้นำได้โดย ที่ไม่ได้มีการกระทำใด ๆ เป็นกระบวนการ (process) ให้เกิดอิทธิพลต่อผู้อื่น ดังนั้น ผู้นำทางจากการแต่งตั้ง เช่น ผู้อำนวยการ ผู้บัญชาการ อาจจะมีภาวะหรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่ว่ามีลักษณะทั้ง 3 ประการหรือเปล่า ในทางตรงข้าม ผู้ที่แสดงภาวะผู้นำอาจจะไม่เป็นผู้นำที่แบบทางการ แต่มีองค์ประกอบ 3 ประการนั้น 2. ภาวะผู้นำ นอกจากเป็นกระบวนการแล้ว ภาวะผู้นำจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้ตามยอมให้ผู้นำใช้อิทธิพลต่อตัวเขา ซึ่งโดยทั่วไปก็ต้องพิจารณาถึงระดับความถูกต้องของอิทธิพลที่ใช้ด้วยว่าไม่ใช่เป็นการใช้อำนาจเข้าขู่เข็ญ หรือบีบบังคับ ให้ทำตาม เพราะถ้าเป็นการเช่นนั้นก็ไม่ถือว่าผู้นำมีภาวะผู้นำได้ 3.
วันศุกร์ ที่ 8 เมษายน พ. ศ. 2565, 13. 58 น.
ในทางกลับกันผู้นำธรรมชาติมักจะมีความสามารถมากกว่าผู้ที่ทำตามรูปแบบการจัดการอื่น ๆ ในการสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาและทำให้พวกเขารู้สึกพอใจกับงานของพวกเขา ด้วยเหตุนี้การมีหนึ่งในคนเหล่านี้จึงสามารถปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานได้อย่างมาก. ข้อเสีย อย่างไรก็ตามคุณสมบัติของผู้นำทางธรรมชาติทั้งหมดนั้นจะต้องไม่เป็นบวกและไม่เหมาะสมที่สุดสำหรับทุกสถานการณ์ บางครั้งอาจมีประโยชน์มากกว่าถ้ามีผู้นำที่ตามโมเดลที่แตกต่าง. ตัวอย่างเช่นบางครั้งความจริงที่ว่าคนรู้วิธีนำทีมไม่ได้หมายความว่าพวกเขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญในงานที่พวกเขาต้องปฏิบัติ เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นผู้นำธรรมชาติอาจทำให้เสียเวลาในการทำงานของกลุ่มหรือแม้แต่นำมันออกไปจากเป้าหมายของเขา. อีกข้อเสียที่พบบ่อยที่สุดของคนที่มีความสามารถในการเป็นผู้นำตามธรรมชาติคือพวกเขามักจะ Machiavellian มาก; กล่าวคือพวกเขามักจะไม่มีปัญหาเมื่อใช้บุคคลอื่นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของตนเอง. ตัวอย่างจริง ตลอดประวัติศาสตร์มีบุคคลหลายคนที่มีความสามารถในการนำทีมหรือกลุ่มคนโดยกำเนิดโดยไม่ต้องศึกษาวิธีที่ดีที่สุดในการทำมันอย่างมีสติ บางส่วนของที่รู้จักกันดีที่สุดคือ: - มหาตมะคานธี.
คิดนอกกรอบเสมอ คำว่าคิดนอกกรอบ ไม่ได้แปลว่าคุณต้องฉีกกฎทุกอย่างทั้งที่ไม่รู้ว่ากรอบเหล่านั้นมีอะไรบ้าง บางคนมักจะนำคำนี้ไปใช้โดยที่ตัวเขายังไม่เข้าใจเลยว่า การอยู่ในกรอบนั้นเป็นอย่างไร แล้วมีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เรายังอยู่ในกรอบแห่งนี้ เมื่อเข้าใจกรอบนี้ดีแล้ว คุณจะสามารถก้าวออกไปนอกกรอบได้อย่างสง่างาม และสามารถสร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่างจากคนอื่นได้ ก่อนจะออกนอกกรอบ ต้องเข้าใจกรอบนี้ให้ดีก่อนเป็นดี เพราะผู้นำระดับโลกหลายคน เขาก็เริ่มต้นจากการอยู่ในกรอบ แล้วค่อยก้าวออกไปจากกรอบนี้นั่นเอ 4. คุณเป็นผู้ตามที่ดีเยี่ยม อ่านถึงข้อนี้อาจจะงงๆ ว่า ภาวะการเป็นผู้นำสูง เกี่ยวข้องอะไรกับการเป็นผู้ตาม โรเบิร์ต เคลลี่ ผู้เขียน The Power of Followership ได้บอกไว้ว่า ผู้ตามที่ดีจะมีความคิดที่ตรงข้ามกับเรา เพราะผู้ตามที่ดีเขาไม่ใช่คนที่จะ Say "Yes" ให้กับทุกอย่าง แต่จะเป็นคนที่กระฉับกระเฉง และมีไอเดียใหม่ๆ ให้กับผู้นำเสมอ และผู้ตามที่ดีจะสามารถพรีเซ้นต์ทุกอย่างได้แม้ขาดผู้นำไป ลองเริ่มต้นเป็นผู้ตามที่ดีก่อน อย่าคิดว่าต้องทำงานไปวันๆ รอรับเงินเดือน แต่ให้ทำอย่างเต็มที่ แสดงศักยภาพที่คุณมีออกมา เอ้า! ลุยดิ 5.
ฟังมากกว่าพูด คนที่รู้มาก ก็เกิดจากการฟังที่มากกว่าคนอื่น ผู้นำในโลกธุรกิจส่วนใหญ่ต่างมีลักษณะพื้นฐานคือการเป็นผู้ฟังที่ดีทั้งสิ้น การฟังเป็นการเก็บเกี่ยวความรู้ต่างๆ มาสั่งสมพอกพูน และใช้ logic ของตนในการตัดสินวิเคราะห์ให้กลายเป็นข้อมูลสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ที่ตนมี หากคุณฟังคู่แข่งมาก คุณก็จะรู้ได้ไม่ยากเลย ว่าเขามีจุดด้อย จุดเด่นอะไรบ้าง และนี่คือสิ่งสำคัญที่คุณจะนำมาปรับปรุงผลงานของตนให้ก้าวหน้า 6.