นำลูกชุบออกจากไม้ิจิ้มฟัน ตัดแต่งเศษวุ้นส่วนเกินออกด้วยกรรไกร จัดใส่จาน เสริฟเป็นของว่างในวันสบายๆได้ทันที วิธีการทำทองหยิบ * ไข่เป็ด 8 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง) * น้ำเปล่า 6 ถ้วยตวง * น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง (เคล็ดลับ: อัตราส่วนมาตรฐานทั่วไปน้ำ 1 ส่วน: น้ำตาล 1/2 ส่วน) 1. ผสมน้ำเปล่าและน้ำตาลทรายลงในกระทะทองเหลือง นำไปตั้งบนไฟอ่อนจนละลายปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็นนำไปกรองด้วย ผ้าขาวบางหนึ่งครั้ง 2. นำน้ำเชื่อมที่กรองแล้วไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง กะพอให้น้ำเชื่อมร้อนจัดแต่ไม่ให้เดือดพล่าน 3. ใส่ไข่แดงลงในถ้วย ตีจนขึ้นฟู เมื่อน้ำเชื่อมร้อนได้ที่ ใช้ช้อนตักไข่แดงที่ตีจนฟู หยอดลงในน้ำเชื่อม ไข่จะแผ่เป็นวงกลม ใช้ช้อนกลับหน้าสักครั้งเพื่อให้สุกทั่วทั้งสองด้าน จากนั้นจึงตักขึ้น 4. รอจนหายร้อน จึงจับจีบโดยใช้นิ้วมือหยิบ 5 หยิบแล้วใส่ลงในถ้วยตะไลหรือแบบพิมพ์ที่เตรียมไว้ วิธีทำทองหยอด * ไข่เป็ด 18 ฟอง * แป้งทองหยอด 1 ถ้วยตวง (หรือแป้งข้าวเจ้า) * น้ำตาลทราย 5 ถ้วยตวง * น้ำลอยดอกมะลิ 5 ถ้วยตวง 1. ผสมน้ำลอยดอกไม้กับน้ำตาลทรายลงในกระทะทองเหลือง แล้วนำไปตั้งไฟแรงให้เดือด เคี่ยวทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นจึงแบ่งน้ำเชื่อมส่วนหนึ่งออกมาสำหรับแช่ทองหยอดที่สุกแล้ว 2.
เชื่อมน้ำเชื่อมโดยใช้น้ำ 1 ถ้วย น้ำตาลทราย 3 ถ้วย 2. ผสมแป้งทั้ง 4 ชนิด เข้าด้วยกัน แล้วนวดกับกะทิ โดยค่อย ๆ ใส่กะทิทีละน้อย ๆ นวดนาน ๆ จนกะทิหมด แล้วใส่น้ำเชื่อมคนให้เข้ากัน พอให้แป้งติดหลังมือนิดหน่อย 3. กรองแป้งทั้งหมด แล้วแบ่งแป้งครึ่งหนึ่งเป็นสีขาว อีกครึ่งหนึ่งใส่ใบเตยหรือสีตามชอบ 4. นำถาดไปนึ่งแล้วทาน้ำมันให้ทั่ว ใส่แป้งสีขาวประมาณ 1/2 ถ้วย แล้วนึ่งให้สุกประมาณ 5 นาที ชั้นที่ 2 ใส่สีเขียว แล้วนึ่งอีกประมาณ 5 นาที ทำเช่นนี้ไปจนหมดแป้ง แล้วให้ชั้นสุดท้ายเป็นสีเข้มกว่าชั้นอื่น ๆ เมื่อสุกยกลงทิ้งให้เย็น แล้วตัดเป็นชิ้นตามต้องการ ขั้นตอนและวิธีการทำข้าวตัง ข้าวตังหน้าตั้ง ส่วนผสมข้าวตังหน้าตั้ง ข้าวตัง 1/2 กก. น้ำมันสำหรับทอด ส่วนผสมน้ำจิ้ม เนื้อหมูสับละเอียด 1 ถ้วย กุ้งสับละเอียด 1 ถ้วย กระเทียมซอย 1/2 ถ้วย หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย กะทิ 2 ถ้วย น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขาม 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันน้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำข้าวตังหน้าตั้ง 1. นำข้าวตัง ทอดกับน้ำมันจนสุกกรอบ พักให้สะเด็ดน้ำมัน 2. นำกะทิตั้งไฟพอเดือดแล้วเคี่ยวให้แตกมันเล็กน้อย แล้วใส่เนื้อสัตว์ ผัดพอสุก 3. ใส่ส่วนผสมอื่นๆ ลงตามปรุงรส รสชาติจะออกเปรี้ยว หวาน เค็ม 4.
น้ำเปล่า 2. 5 ถ้วย น้ำตาล 2. 5 ชต. 1. นำผงวุ้นแช่ในน้ำ 20-30 นาที 2. นำขึ้นตั้งไฟคนเรื่อยๆจนเดือดแล้วใส่น้ำตาล สักพักยกลง วิธีการปั้นลูกชุบ 1. ปั้นให้เป็นก้อนกลมๆเท่าๆกันก่อนนะคะ ประมาณเท่าเหรียญบาท 2. หลังจากนั้นก็ปรับแต่งให้เป็นรูปทรงต่างๆ 3. วิธีทำร่องใช้ไม้จิ้มฟันที่เราจะเสียบกด วิธีการลงสี /ใช้สี สามารถใช้สีน้ำผสมอาหารยี่ห้อที่ใช้คือวินเนอร์ และใช้พู่กันเบอร์ 3 หรือ 4 กรณีสีมันเข้มไปให้ผสมน้ำเจือจางค่ะ และไล่สี…ปักทิ้งไว้ให้สีแห้ง ก่อนนำไปชุบวุ้นค่ะ วิธีการชุบวุ้น 1. เราจะชุบประมาณ 3-5 ครั้ง (ชุบซัก 3 รอบ กำลังสวยค่ะ) ซ้ำๆไปจนเงางามตามภาพ…ชุบแล้วพักไว้จนลูกชุบเย็น แล้วจึงชุบซ้ำใหม่ไปเรื่อยๆจนครบจำนวนครั้ง 2. ชุบเสร็จก็คว่ำวางเหมือนเดิม 3. หลังจากนั้นก็นำเอาลูกชุบมาถอดไม้จิ้มฟันออกและใช้มีดตัดวุ้นที่ยาวเลยออกมาตามไม้ และตกแต่งติดก้านใบได้เลย ใบที่ใช้ตกแต่งนิยมใช้ใบแก้ว **แนะนำเพิ่มเติม** ถ้าเวลาปั้นเสร็จแล้วลงสี เห็นเป็นร้อยแตก…อาจเกิดจากโดนลม ดังนั้นอย่าให้ขนมโดนลม จะทำให้ขนมแตก เวลาลงสีจะไม่สวย หรือจะใส่แป้งมัน 1 ช้อน ก็จะช่วยปั้นได้ง่ายขึ้น ย่างเข้าหน้าร้อนแบบนี้ เมนู ขนมไทย สุดฮิตที่มาพร้อมความฮอตของอากาศก็ต้องยกให้ข้าวเหนียวมะม่วงเขาล่ะ เมนูขนมที่คนไทยรัก คนต่างชาติหลง แต่ก็รู้ ๆ ว่า ถ้าซื้อข้าวเหนียวมูนกับมะม่วงสุกมากินเอง ราค าแพงนะค ะ ทำเองดีไหม?
จังหวัดพิจิตร ขนมชั้น ขนมชั้น ถือว่าเป็นขนมหวานที่ขึ้นชื่อของจังหวัดพิจิตร ในเรื่องของรสชาติและรูปแบบขนมชั้นมักนิยมในช่วงวันแต่งงาน วันพระ ส่วนผสมทำจากแป้ง น้ำตาลทราย และกะทิ สีสันของขนมอาจทำมาจากใบเตย ปัจจุบันทำมาดัดแปลงพับเป็นรูปดอกกุหลาบที่แสดงความเป็นเอกลักษณ์ของไทย 10. จังหวัดพิษณุโลก ขนมกล้วยตากบางกระทุ่ม ขนมกล้วยตาก เนื่องจากมีกล้วยน้ำว้าเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงคิดวิธีทดลองถนอมอาหาร โดยการนำกล้วยสุกไปตากแดดเก็บไว้รับประทานและแจกชุมชนใกล้เคียงจนเป็นที่ติดปากและถูกใจ ในรสชาติต่อมาชาวบ้านได้ปรับปรุงและพัฒนาจนปัจจุบันเป็นของฝากที่ขึ้นชื่อของจังหวัดพิษณุโลก 11. จังหวัดเพชรบูรณ์ มะขามแปรรูป มะขามแปรรูป ชาวบ้านใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการแปรรูปมะขามเพื่อให้สามารถเก็บรักษาไว้รับประทานได้นาน ซึ่งตอนแรกได้แปรรูปเป็นมะขามกวนปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์เรื่อยมาและเป็นของฝากที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดเพชรบูรณ์ 12. จังหวัดลพบุรี วุ้นมะพร้าวในน้ำเชื่อม วุ้นมะพร้าวในน้ำเชื่อม ริเริ่มทำโดยข้าราชการบำนาญของจังหวัดลพบุรี วิธีการทำคือ ทำน้ำมะพร้าวให้เป็นชั้นวุ้นและนำมาแปรรูปในขวดแก้วออกจำหน่ายตามท้องตลาด ปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์จนเป็นที่ยอมรับและเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย 13.
ต่อยไข่ แยกไข่ขาวออก ใช้เฉพาะไข่แดง โดยนำไข่แดงไปกรองในผ้าขาวบางเพื่อรีดเอาเยื่อออก จากนั้นจึงตีไข่แดงให้ขึ้นฟู จากนั้นค่อยๆผสม แป้งทองหยอดลงไปและคนให้แป้งและไข่แดงเข้ากัน 3. นำไข่แดงที่ผสมแป้งเรียบร้อยไปหยอดในน้ำเชื่อม สำหรับวิธีหยอดนั้นให้ใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ และนิ้วกลาง หยิบส่วนผสมมาเป็นลูกขนาดพอประมาณ แล้วจึงสบัดลงไปในน้ำเชื่อม ทำเช่นนี้จนเต็มกระทะทองเหลือง จากนั้นรอจนทองหยอดสุกจึงตักออกมาพักใส่ในน้ำเชื่อมที่แยกไว้ก่อนหน้านี้ (ทองหยอดที่สุกจะลอยขึ้น) 4. จัดทองหยอดใส่จานเสริฟเป็นของว่างหรือของทานเล่นในวันพักผ่อนสบายๆ
ขนมไทยภาคกลาง ส่วนใหญ่ทำมาจากข้าวเจ้า เช่น ข้าวตัง นางเล็ด ข้าวเหนียวมูน และมีขนมที่หลุดลอดมาจากรั้ววัง จนแพร่หลายสู่สามัญชนทั่วไป เช่น ลูกชุบ หม้อข้าวหม้อแกง ฝอยทอง ทองหยิบ ขนมตาล ขนมกล้วย ขนมเผือก เป็นต้น
Skip to content ขนมไทย 4 ภาค Home ประวัติขนมไทย ภาคกลาง ขนมหม้อแกง ลูกชุบ ข้าวตังหน้าตั้ง ฝอยทอง ทองหยิบ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ข้าวจี่ ข้าวโป่ง ข้าวต้มมัด ข้าวยาคู ภาคเหนือ ขนมเทียน ขนมวง ขนมจ๊อก ข้าวเกรียบว่าว ภาคใต้ ขนมลา ขนมพอง ข้าวต้มห่อใบกะพ้อ ขนมหน้าไข่ ขนมก้านบัว