ควรดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน แค่การดื่มน้ำหรือจิบน้ำบ่อย ๆ ตลอดวัน ก็ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายให้ทำงานได้เป็นปกติ ส่งผลให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างเต็มที่ แต่ที่สำคัญคือ ต้องหลีกเลี่ยงการใช้แก้วน้ำ หรือหลอดร่วมกับคนอื่นเด็ดขาด เพราะอาจเสี่ยงต่อการรับเชื้อ-แพร่เชื้อระหว่างกันได้ 3.
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เชื่อว่าวิถีชีวิตของพวกเราทุกคนเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิม เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ให้ความสำคัญมากขึ้นกับการดูแลสุขอนามัย และใส่ใจสุขภาพเพื่อสร้างเกราะป้องกันให้ร่างกายห่างไกลโรคและความเจ็บป่วยต่าง ๆ แต่ถึงแม้สถานการณ์ปัจจุบันจะคลี่คลายลงบ้าง การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเราทุกคน เนสท์เล่จึงอยากให้ทุกคนใส่ใจดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ปรับมุมมองและสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ดีจนเป็นนิสัย ด้วยเคล็ดลับสุขภาพง่าย ๆ ที่ทำได้ทุกคนด้วย 3 อ. อาหาร ออกกำลังกาย และอารมณ์ เคล็ดลับการดูแลสุขภาพดี ด้วยหลัก 3 อ. 1. อ.
Type of activity (ชนิดของกิจกรรม) เลือกการออกกำลังที่ตนชอบเหมาะสมกับอายุและสภาพร่างกายของตนเอง เช่น การเดิน เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย ประหยัดและปลอดภัย 4. Time of duration (ระยะเวลา) อย่างน้อย 15-60 นาที/ครั้ง ขึ้นอยู่กับประเภทของการออกกำลังกาย ถ้า ว่ายน้ำ อย่างน้อย 20 นาที จะสูญเสียแคลอรี่เท่ากับการเดิน 60 นาที (ประมาณ 200-300 แคลอรี่) โดยจะมีการ Warm up ด้วยวิธี Callisthenic exercise 3-5 นาที ก่อนจะออกกำลังกาย aerobic และจะต้อง cool down อีก 3-5 นาที ด้วยขยับขึ้น callisthenic exercise ก่อนที่จะเสร็จสิ้นการออกกำลังกายในแต่ละครั้ง - ควรจะมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง มีแรงบีบตัวเพิ่มขึ้นและการเต้นของหัวใจจะช้าลง เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ออกกำลังกาย เท่ากับเป็นการประหยัดพลังงานของเรา อ่านเพิ่มเติม:
ร่างกาย 2. จิตใจ 3. สังคมสิ่งแวดล้อม 4.
ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี: แม้ว่าคุณจะทำการดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดีมาโดยตลอด แต่ใครจะรู้ว่าภายในร่างกายนั้นมีโรคร้ายแฝงตัวอยู่หรือไม่ เพราะฉะนั้น การตรวจสุขภาพก็เป็นหนึ่งในการดูแลตัวเอง เพื่อหาวิธีการรับมือกับภัยที่แฝงตัวอยู่ภายในร่างกายให้ทันนั่นเอง ขอบคุณแหล่งที่มา: สสส. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
5 –2. 0 ลิตร และได้รับจากเครื่องดื่มและอาหาร ทั้งภายในและภายนอกร่างกายอีกประมาณวันละ 1 –2 ลิตร ร่างกายสูญเสียน้ำผ่านทาง ผิวหนัง มีทั้งที่เรามองเห็นออกมาในรูปของเหงื่อ และน้ำที่ระเหยไปโดยที่เรามองไม่เห็น ปอด โดยการหายใจออก ทางอุจจาระ ทางปัสสาวะ รวมทั้งสิ้นในวันหนึ่งร่างกายสูญเสียน้ำประมาณ 3–5 ลิตร ซึ่งใกล้เคียงกับปริมาณที่ได้รับ ปริมาณของน้ำในร่างกายคนไม่แน่นอน ขึ้นกับอายุ ปริมาณของไขมันในร่างกาย และกิจกรรมของแต่ละคน คนที่ทำงานหนักกลางแจ้งอาจสูญเสียน้ำ 5 –12 ลิตรต่อวัน หรือคนที่มีโรคภัยไข้เจ็บก็อาจเสียสมดุลของน้ำในร่างกายได้ง่าย กลไกควบคุมสมดุลของสารน้ำ 1. สมองส่วนไฮโปทาลามัสทำหน้าที่ควบคุมปริมาณสารน้ำในร่างกาย 2. เมื่อร่างกายมีการสูญเสียน้ำ สมองส่วนไฮโปทาลามัส ซึ่งมีศูนย์ควบคุมการกระหายน้ำ จะสั่งการให้เกิดการดื่มน้ำทดแทน โดยจะรู้สึกกระหายน้ำ และเมื่อมีการกลืนน้ำเข้าไป ก็จะช่วยบรรเทาความกระหายได้อย่างรวดเร็ว 3. ถ้าร่างกายขาดน้ำประมาณ 3 วัน ก็จะทำให้เสียชีวิตได้ สำหรับภาวะขาดน้ำเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ลักษณะของน้ำดื่มที่ดี 1. น้ำดื่มที่ดีต้องปราศจากสารปนเปื้อนทางเคมีและสารอินทรีย์ต่าง ๆ อาทิเช่น เชื้อจุลินทรีย์ โลหะหนัก รวมทั้งสารเคมี 2.
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นการดูแลสุขภาพที่เหมือนจะทำได้ง่าย แต่ความเป็นจริงสำหรับบางคนทำได้ยากเชียวล่ะด้วยเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป แต่ถึงยังไงควรจะนอนหลับให้ได้ประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน หากพักผ่อนน้อยติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจเป็นต้นเหตุก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาเช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ฯลฯ อีกทั้งยังส่งผลให้สมรรถภาพในการใช้ชีวิตประจำวันลดลงด้วย 2. ดื่มน้ำเยอะ ๆ ให้ได้วันละ 8 แก้ว ควรเลือกดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลม น้ำหวานต่าง ๆ อีกทั้ง น้ำเปล่า ถือว่าเป็นน้ำที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุด เพราะช่วยในการทำหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ขับสารพิษออกจากร่างกาย และยังเป็นวิธีดูแลสุขภาพที่ทำได้ง่าย ๆ ควรค่อย ๆ จิบระหว่างวันดีกว่าดื่มเยอะ ๆ รวดเดียว เพราะอาจจะทำให้ร่างกายรับน้ำมากเกินความจำเป็น สูตรคำนวณว่าควรดื่มน้ำปริมาณเท่าไหร่ถึงจะพอต่อร่างกาย ดังนี้ (น้ำหนักตัว x 2. 2 x 30) หาร 2 เช่น น้ำหนักตัว 50 จะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 1. 7 หมายถึง คุณต้องดื่มน้ำ 1. 7 ลิตรต่อวันหรือประมาณ 8-9 แก้วนั่นเอง 3. ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกไปที่สาธารณะ การใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกไปยังที่สาธารณะถือว่าเป็นการรักษาสุขภาพโดยเริ่มที่ตัวเอง นอกจากกันฝุ่นละอองต่าง ๆ ได้แล้ว ยังกันเชื้อโรคได้อีกด้วย อีกทั้งยังมีปัญหาฝุ่น PM 2.
เทรนด์ดูแลสุขภาพยุคใหม่ และการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงในยุคปัจจุบันจึงเป็นสิ่งสำคัญ ผู้บริโภคต่างมองหาผลิตภัณฑ์และการบริการที่เชื่อมโยงต่อสุขภาพ ผู้ประกอบการด้านสุขภาพก็ต่างพัฒนาเทคโนโลยี รวมถึงการบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด จากสถิติการเติบโตของธุรกิจด้านสุขภาพของโลกโดย Global Wellness Institute (GWI) ที่ระบุว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (wellness tourism) มีสัดส่วนการเติบโตมากที่สุดเมื่อเทียบกับธุรกิจด้านสุขภาพอื่นๆ โดยจะเห็นได้จากปี 2558-2560 ที่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมีอัตราเติบโตถึงร้อยละ 6.
หาเว ลาว ่างไปเที่ยวพักผ่อน หากมีเวลาว่างหรือ วันหยุด แนะนำว่าควรออกไปพบเจอกับสิ่งใหม่ๆ บ้าง วิธีนี้เป็นการให้เวลากับตัวเองเพื่อให้ได้ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน หรือจากเรื่องแย่ที่เจอมาตลอดทั้งสัปดาห์ เคยมีคนพูดว่า อกหัก ต้องไปทะเล ไปเที่ยวกับเพื่อนสนุกที่สุดก็ทะเล อยากโรแมนติกก็ต้องพาแฟนไปเที่ยวทะเล ฉะนั้นหากมีเวลาว่างควรพาตัวเองไปชื่นชมกับธรรมชาติ ทะเลที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ขุนเขา น้ำตก หรือให้เวลากับตัวเองโดยการไปฝึกสมาธิก็ได้เหมือนกัน จะช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่สงบและแข็งแรงขึ้นได้