หยุดรถให้นิ่งก่อนเปลี่ยนทิศทางขับ
เวลาเราขับรถเดินหน้า-ถอยหลัง เช่น ในห้าง หรือลานจอดรถ บางคนก็มีมารยาทเกรงใจเพื่อนร่วมทางมากเกินไป จนทำอะไรรีบร้อน โดยเฉพาะเวลาเราเดินหน้าถอยหลังรถ ขอให้มั่นใจว่า เราหยุดรถนิ่งสนิทก่อนเปลี่ยนทิศทางขับ เพื่อไม่สร้างแรงตึงให้สายพานโดยไม่จำเป็น
5. อย่าไหลรถด้วยเกียร์ N
เชื่อว่าหลายคนคงทำบ่อยกับรถเกียร์ธรรมดา ด้วยการไหลรถแล้วเข้าเกีร์ที่มีอัตราทดต่ำ เพื่อประหยัดน้ำมันมากขึ้นสักหน่อย เรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง ถึงคุณจะประหยัดได้ในวันนี้ก็อาจต้องเสียมากในวันหน้า เมื่อชุดคลัทช์ลาโลกอย่างรวดเร็ว
สำหรับเกียร์ CVT ความเสียหายอาจไม่เกิดกับชุดคลัทช์แต่เป็นสายพานในชุดเกียร์ ซึ่งจะต้องรับแรงบิดจากการฉุดกระชากของทางล้อกับทางเครื่องยนต์พร้อมกัน และนั่นทำให้ในระยะยาวมันอาจพังง่าย
6.
การขับรถบรรทุกขึ้นเขา กับเทคนิคสำคัญสิงห์รถบรรทุกต้องรู้ | รถบรรทุก รถบัส BUS&TRUCK : Thailand #1 Commercial Vehicle Fortnighty Newspaper เว็บไซด์เพื่อชาวรถใหญ่ รถบัส รถบรรทุก ศูนย์รวมข่าวสารวงการ รถบัส รถบรรทุก รถมือสอง ออโต้เซอร์วิส
1. ห้ามใช้เกียร์ว่าง
การขับรถลงทางลาดชัน หรือภูเขา "ห้าม" ใส่เกียร์ว่าง ปล่อยรถให้ไหลโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เสียการทรงตัว เนื่องจากรถนั้นมีน้ำหนักมาก ถ้าผู้ขับขี่ปล่อยรถที่เกียร์ว่าง รถจะพุ่งลงเขาด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงโน้มถ่วงโลก อาจเกิดอันตรายได้ ทางที่ดีควรใช้แรงฉุดจากเครื่องยนต์ (ENGINE BRAKE) ในการช่วยเบรค ด้วยการลดเกียร์ลงครั้งละ 1 จังหวะ ตามแต่ความเหมาะสม โดยต้องเปลี่ยนให้สัมพันธ์กับความเร็ว ซึ่งมีผลให้รอบเครื่องยนต์เพิ่มสูงขึ้น แต่ความเร็วของรถจะลดลงอย่างรวดเร็ว ช่วยให้สามารถควบคุมรถได้
2.
ลงเขาใช้เกียร์ต่ำ คืออะไร - YouTube
รถ PPV หรือ Pick-Up Passenger Vehicle – มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง รองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 ที่นั่ง เหมาะแก่การเดินทางไกล ขับขึ้นเขา และเส้นทางลุย ที่สำคัญคือความทนทาน ช่วงล่างดี เครื่องดีเซล แรงบิดเยอะ และประหยัดเชื้อเพลิง มีล้อใหญ่ยึดเกาะถนน และมีอัตราเร่งของเครื่องยนต์สูง 1500cc ขึ้นไป เช่น Ford Everest, Isuzu MU-X, Mitsubishi Pajero Sport, Toyota Fortuner, Nissan Terra, Chevrolet Trailblazer 2. รถ SUV หรือ Sport Utility Vehicle – คล้ายกับรถ PPV รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง แต่จะให้ความสะดวกสบายได้มากกว่า เพราะพฤติกรรมการแล่นจะคล้ายรถเก๋ง เน้นความนุ่มนวล เช่น Honda CR-V, Mazda CX-5, Mercedes-Benz GLC, Nissan X-Trail, BMW X3, Volvo XC60, Range Rover 3.
เพิ่มความมั่นใจ ในการขึ้น – ลงทางลาดชัน
เวลาขับรถขึ้นลงเขาก็มักมีป้ายเตือนข้างทางว่า "ทางลาดชัน กรุณาใช้เกียร์ต่ำ" นั่นแหละครับ ถึงเวลาที่คุณควรเปลี่ยนมาใช้เกียร์ S แล้ว แต่ถ้าทางลาดชันมากๆ การใช้เกียร์ S ก็อาจจะไม่เพียงพอ รถบางรุ่นจึงมีทั้งเกียรื S และเพิ่มเกียร์ L มา เพื่อใช้สำหรับเวลาที่ต้องขับรถทางที่มีความชันมากๆ จึงจำป็นต้องใช้เครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงๆ นั่นเอง
3.
วิธีขับขึ้นเขา - ลงเขา ทั้งรถเกียร์ออโต & เกียร์ธรรมดา อย่างเซียน ! | The 39th Thailand International Motor Expo 2022
ขับรถขึ้นเขา ควรใช้รถแบบไหนดี? เกียร์อะไร? | Drivehub blog
5 เรื่องที่ต้องรู้ เมื่อต้องขับขี่ในช่วงฤดูฝน
5 เคล็ดลับ "ขับรถให้ปลอดภัย" ในเวลากลางคืน
Advertisement
เคล็ดลับขับรถขึ้นเขาลงเขา Posted on ตุลาคม 10, 2017 by in สาระความรู้ทั่วไป เคล็ดลับขับรถขึ้นเขาลงเขา เป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายๆคน เพราะหลายสถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากไปเป็นทางชันขึ้นเขาลงเขาทำให้การขับขี่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทาง ยานพาหนะที่ใช้ก็ต้องสมบูรณ์ยิ่งถ้าเป็นรถค่อนเก่ายิ่งต้องตรวจเช็คสภาพก่อนออกเดินทางให้ดี เคล็ดลับขับรถขึ้นเขาลงเขา ให้ปลอดภัย มีอะไรบ้าง 1. เช็ครถให้พร้อม ในกรณีที่เราขับรถทางราบมาเป็นระยะเวลานาน ทำให้เครื่องยนต์และหม้อน้ำที่ร้อน ได้มีเวลาพักเป็นเวลาอย่างน้อยสัก 20-30 นาทีเพื่อให้คลายความร้อนก่อนที่จะใช้งานหนักขึ้นเขาอีกที 2. การใช้เกียร์ขณะขึ้นเขา ควรใช้เกียร์ต่ำอยู่เสมอเพราะรถต้องใช้แรงส่ง เร่งความเร็วให้สม่ำเสมอ นุ่มนวล สำหรับเกียร์ออโต้ ถ้าเจอทางขึ้นเขาที่ชันมากให้ปรับเกียร์ลงมาที่ต่ำแหน่งล่างสุด ในบางรุ่น จะมีเป็น L บางรุ่นจะเป็น 1 บางรุ่นจะเป็น 2 เป็นต่ำแหน่งที่ใช้สำหรับทางที่ชันมาก เมื่อพ้นจากทางชันไม่ควรขับลากไปเลื่อยๆ เพราะเครื่องยนต์จะทำงานหนักเกินไป ควรปรับต่ำแหน่งเกียร์มาที่ D ทันที สำหรับเกียร์กระปุก ให้ใช้เกียร์ 1และเกียร์ 2 เพราะเป็นเกียร์ที่แรงส่งมากที่สุด หากขับขึ้นทางชันไปเรื่อยๆ โดยใช้เกียร์ 2 อยู่ แล้วเริ่มไม่มีแรง รถเริ่มอืด ให้สลับกลับมาที่เกียร์1 3.
- เพลง all for you 2
- โช๊ค Yss Hybrid Pcx ราคาถูก ซื้อออนไลน์ที่ - เม.ย. 2022 | Lazada.co.th
- แบบ สี บ้าน ทรง โม เดิ ร์ น
- 3 เซ็กซี่สตาร์ “มุก-แคท-เชอร์รี่” ประชันเต้า!
- *แคคตัส แมมหนามตะขอดำ Mammillaria beneckei เบเนกี้ไอ
- ขับรถขึ้นเขา ควรใช้รถแบบไหนดี? เกียร์อะไร? | Drivehub blog
- รางวัล แชมป์ พรีเมียร์ ลีก
- รองพื้น กัน น้ำ
- การ ทำ ยา หอม
ไหลรถก่อนเสมอ
ด้วยความเป็นเกียร์สายพาน การปล่อยเบรกให้รถไหล ก่อนเติมคันเร่ง ช่วยลดแรงฉุดจากแรงบิดของเครื่องยนต์ที่ให้สายพานเกิดความเครียดได้ โดยเฉพาะในยามรถติด ถ้าคุณเบรกแล้วเร่งออก สายพานจะถูกฉุดด้วยแรงบิดต่อเนื่องเรื่อยๆ จะมีผลเสียในระยะยาว
2. อย่าเลี้ยงคันเร่งหยุดรถบนเนิน
คนจำนวนไม่น้อยชอบใช้เทคนิคเลี้ยงคันเร่งบนเนินเพื่อหยุดรถแล้วรอจังหวะออกตัว หลายคนทำแบบนี้ โดยเฉพาะคนขับมือเก๋า เพราะกลัวรถไหล หรือไม่ก็จะได้มีจังหวะออกตัวเลย พฤติกรรมดังกล่าวส่งแรงเครียดถึงสายพานในเกียร์มากกว่าที่คิด เนื่องจาก ลูกรอกในเกียร์จะรับแรงบิดจากเครื่องยนต์ต่อเนื่องในขณะที่ลูกรอกอีกด้านที่หมุนเพลาขับกลับไม่สามารถขับเคลื่อนล้อได้ ทำให้เกิดแรงดึงที่สายพาน ถ้าต้องจอดติดขึ้นเนินให้เหยียบเบรกจะดีกว่า เดี๋ยวนี้เขามีระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน Hill start assist แล้ว ไม่ต้องกลัวรถไหล เวลาออกตัว
3. ติดนานควรเข้า N
เมื่อรถติดนานๆ ควรเข้า N เป็นข้อแนะนำที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากต่างประเทศ เนื่องจากเมื่อเราเข้า N ชุดเกียร์จะทำการปลดตัว torque Converter ที่ต่อกับเครื่องยนต์ เพื่อไม่ให้มีการส่งแรงบิดมาชุดเกียร์เป็นการชั่วคราว เมื่อไม่มีแรงบิดก็ไม่มีการหมุนลูกรอก ลดภาระเรื่องแรงเครียดสายพานได้มากกว่าการเข้าเกียร์ D แล้วเหยียบค้างไว้
แต่ถ้าคุณติดไฟแดงแค่ไม่กี่นาที 60-120 วินาที ก็ไม่จำเป็นต้องปลดมาเกียร์ N ก็ได้ครับ เพราะการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ไปมาเร็วๆ นอกจากจะทำให้โซลินอยเสียแล้ว บางทีรับเผลอเรอ เราก็ปลดมา D รีบออกตัว กลายเป็นกระชากสายพาน ทำเรื่องดีกลับกลายเป็นเรื่องร้ายไม่รู้ตัวมาก่อน
4.
- ท่อน bridge คือ
- Ideal self คือ images
- โค้ดแมพ blox fruits de mer
- Amss ส พ ป ศก 4
- ที่นอน 3.5 ฟุต โลตัส
- รูป ถุงเท้า วัน คริสต์มาส ภาษาจีน
- Villaggio 2 พระราม 2
- อดาไลน์ หยุดเวลา รอปาฏิหาริย์รัก
- กังฟูแพนด้า 1 พากย์ไทย
- กล่องสุ่มตุ๊กตา
- กองทุนรวม ขายได้ตอนไหน
- ดาวน์โหลด ไพ ทอน
- สว่านไร้สาย black&decker เปลี่ยนหัว